ฟิลิปโป้ อินซากี้ Fox in the box ตำนานแห่งปีศาจแดงดำ
ฟิลิปโป้ อินซากี้ Fox in the box ตำนานแห่งปีศาจแดงดำ หากเราจะพูดถึงกองหน้า ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสัญชาตญาณการทำประตู หรือกองหน้าที่เล่นในสไตล์ ที่ถูกเรียกกันว่า Fox in the box หรือก็คือกองหน้าจมูกไว ที่หาจังหวะทำประตูได้ตลอดเวลา หนึ่งในชื่อของกองหน้าประเภทนี้ จะต้องมีชื่อของตำนานกองหน้า จากสโมสร AC Milan จากประเทศอิตาลี อยู่ด้วยอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันฟุตบอล ในระดับสโมสร หรือในระดับทีมชาติ และการแข่งขันระดับประเทศ และหลายประตูที่เขาทำได้นั้น ก็มีหลายประตู ที่เป็นประตูสำคัญๆ ดังนั้นเขาจึงเป็นหนึ่งในกองหน้า ที่ไว้ใจได้มากที่สุด ในเรื่องของการทำประตู ซึ่งประตูที่เกิดขึ้นหลายลูก ก็เกิดขึ้นในกรอบเขตโทษ แทบจะทั้งหมด โดยนั่นก็เป็นเพราะสไตล์การเล่น ที่มาจากสัญชาตญาณของเขา
เขาดูเป็นกองหน้าที่กระโดกกระเดก ดูไม่ได้มีอะไรดีเด่น สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัย ที่ทำให้เขาสามารถทะลวงกองหลัง เข้าไปยิงประตูได้เป็นว่าเล่น เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า ปิ๊ปโป้ หรือ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ทำประตูได้เป็นจำนวนมาก เมื่ออยู่ในกรอบเขตโทษ โดยวิธีการไม่ใช่แค่ การเข้าชาจ หรือยิงประตูได้ดี แต่เขายังมีจุดเด่นในการ ทำลายกับดักล้ำหน้า ของคู่ต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม
ฟิลิปโป้ อินซากี้ Fox in the box ประวัติความเป็นมา
ฟีลิปโป “ปิ๊ปโป” อินซากี (Filippo Pippo Inzaghi) เขาเกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1973 โดยที่เขาเริ่มอาชีพนักฟุตบอล ในปี 1991 กับสโมสร ปิอาเซนซ่า แต่เขามีโอกาสได้เล่นไปเพียง 2 นัดเท่านั้น ก่อนที่จะเริ่มเพนจร ไปยังสโมสรอื่นๆ และเริ่มทำผลงานการข้าแข้ง ได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ จนได้กลับมาเล่นกับ ปิอาเซนซ่า สโมสรในบ้านเกิดอีกครั้ง
ด้วยผลงานที่ดีขึ้น ทำให้สโมสร ปาร์ม่า ที่อยู่บนลีกสูงสุด ของประเทศอิตาลี ในปี 1995 แต่ผลงานของเขาไม่ดีนัก โดยเขามีโอกาสในการลงเล่นให้กับทีม แค่เพียง 15 นัด และทำได้แค่เพียง 2 ประตูเท่านั้น จึงทำให้ชีพจรต้องลงเท้าของเขาอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นทางสโมสรอตาลันตา ที่หยิบยื่นโอกาสใหม่มาให้ และในสโมสรนี้นี่แหละที่ทำให้ชีวิตของเขาเริ่มเปลี่ยนไป
ในสโมสรอตาลันตา เขาได้ลงเล่นไปทั้งหมด 33 เกม และทำประตูได้มากถึง 24 ประตู ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาคว้ารางวัลดาวซัลโว กัลโช่ เซเรียอา ลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี อีกทั้งยังสามารถคว้ารางวัล ดาวรุ่งยอดเยี่ยม ประจำลีกสูงสุด ของปรเทศมาครอบครองได้อีกด้วย ซึ่งด้วยผลงานที่โดดเด่นสุดๆ นี้ จึงทำให้สโมสรยักใหญ่ของลีก จับตามองกันตาไม่กระพริบ
ยูเวนตุสสโมสรใหญ่ยักษ์ กลายเป็นผู้โชคดีที่ได้ตัวของ อินซากี้ ด้วยเพื่อนร่วมทีมใหม่ ที่มีศักยภาพมากขึ้นทั้ง อเลสซานโดร เดลปิเอโร่ และซิเนอดีน ซีดาน ก็ทำให้การเล่นของเขาดีขึ้นไปด้วย โดยระยะเวลาของเขาในตูรินก็ยาวนานถึง 4 ปี และนั่นก็ทำให้เขาสามารถคว้าถ้วยรางวัล สคูเด็ตโต้ หรือแชมป์ลีกสูงสุด ของประเทศอิตาลีมาครอบครองได้สำแร็จ
สู่จุดสูงสุดในอาชีพ กับ เอซี มิลาน
ถึงแม้ว่าผลงานของ อินซากี้ ในชายคารั้วที่ชื่อว่ายูเวนตุสนั้น จะทำผลงานได้เป็นอย่างดี แต่นั้นก็ยังไม่เพียงต่อความต้องการของสโมสรแห่งนี้ เพราะจุดเปลี่ยนของ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ได้มาอีกครั้งนึง เมื่อทีมเจ้ามาลายได้มีการทุ่มเงินจำนวนมหาศาล คว้าตัวสุดยอดดาวยิง อีกหนึ่งคนอย่าง เดวิด เทรเซเก้ เข้ามาเป็นกองหน้าตัวจริงแทนที่ของเขา
เอซี มิลาน คือทางออกถัดไปของ ปิ๊ปโป้ โดยทางปีศาจแดงดำนั้น ได้ทุ่มเงินเป็นจำนวนถึง 21 ล้านปอนด์ เพื่อดึงตัว ปิ๊ปโป้ โดยที่ยูเวนตุสนั้นไม่ได้รู้ตัวเลยว่า พวกเขาได้ยื่นหนึ่งในดาบที่แหลมคมที่สุด ให้กับคู่แข่งแย่งแชมป์คนสำคัญไปเรียบร้อยแล้ว เพราะช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ เอซี มิลานนั้น เขาสามารถคว้าทุกแชมป์มาครอบครองได้ทั้งหมด
การผสานงานของเขากับ อังเดร เชฟเชนโก้ กลายเป็นคู่กองหน้า ที่สร้างฝันร้ายให้กับทุกทีม โดยเฉพาะในปี 2003 ที่สโมสรเก่าของเขาอย่าง ยูเวนตุส ได้รู้ซึ่งถึงความเจ็บช้ำที่ปล่อยตัวเขาออกมา เพราะในปีนั้นทั้ง เอซี มิลาน และยูเวนตุส ต่างก็ตบเท้าเข้าไปชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป อย่าง UAFA Champions League ซึ่งเป็นการชิงกันเอง ระหว่างสโมสรจากอิตาลี
โดยเขาสามารถพา เอซี มิลาน ชนะจุดโทษคว้าแชมป์หูโตไปได้ในปีนั้น และถึงแม้ว่าในปี 2005 เขาต้องพ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล สโมสรจากประเทศอังกฤษอย่างเจ็บช้ำ ด้วยการนำ 3 ประตู แต่โดนตีเสมอและแพ้ในการดวลจุดโทษ ในนัดชิงชนะเลิศ ในรายการเดียวกันนี้ แต่ในปี 2007 เขาก็พาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง กับคู่แค้นเดิมอย่างลิเวอร์พูล
โดยในคราวนี้ อินซากี้ ได้แสดงผลงานระดับมาสเตอร์พีชออกมา ด้วยการโชว์สไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ฉีกกระชากกองหลังของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล จนขาดเป็นชิ้นๆ โดยเขาพา เอซี มิลาน ล้างแค้นได้สำเร็จ ด้วยสกอร์ 2–1 ซึ่งสองประตูของ เอซีมิลาน ก็เป็นผลงานการทำประตู ของเขาทั้งหมดและเขาก็แขวนสตั๊ด ยุติอาชีพการข้าแข้งลง ในปี 2012
ทุกครั้งที่เขาทำประตูได้ เขาจะดูใจอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าประตูนั้น เป็นประตูชัยที่จะตัดสินแชมป์ ต่อให้เป็นการแข่งขันกระชับมิตร เขาก็ยังทุ่มเท และดีใจอย่างบ้าคลั่ง เหมือนเช่นเคย ทุกประตู และทุกแชมป์ ที่เขาคว้ามาได้ ล้วนแล้วแต่เป็นประวัติศาสตร์ ทั้งสิ้น ทั้งในปี 2006 เขายังสามารถคว้าแชมป์โลก กับทีมชาติอิตาลีได้อีกด้วย ชื่อของ ฟิลิปโป้ อินซากี้ เป็นอีกบทหนึ่ง ของตำนานดาวยิง ที่ดีที่สุดในโลก
อ่านข่าวฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ :: Cheerball345/football-history
อัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับฟุตบอล และรับทีเด็ดฟรีก่อนใครได้แล้ววันนี้ที่ :: Cheerball345.com