โรนัลดิญโญ่ เกาโช่ ตำนานแซมบ้าบราซิลหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

โรนัลดิญโญ่ เกาโช่ ตำนานแซมบ้าบราซิลหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

“ศิลปินลูกหนัง” มีนักฟุตบอลเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และ โรนัลดิญโญ่ เกาโช่ เหมาะสมอย่างยิ่งกับคำๆนี้ เพราะเขาเป็นนักฟุตบอล ที่มีลีลาการเล่นอันสวยงาม รวมไปถึงมีประสิทธิภาพ ที่สามารถสร้างสรรผลงาน ให้กับทีมได้จริง ไม่ใช่แค่เพียงการโชว์ปาหี่เท่านั้น ซึ่งหากจะให้คิดถึงใครสักคน ที่มีความเป็น ศิลปิน ของโลกลูกหนัง ชื่อแรกๆ ก็คงเป็น “โรนัลดินโญ่” อย่างไม่ต้องสงสัยเลยแม้แต่นิดเดียว

“โรนัลดินโญ่” เป็นศิลปินลูกหนัง โดยแท้จริง เพราะนี่คือยอดนักเตะ ที่มีลีลาการเล่นที่สวยงาม เทคนิคดี ดูปล้วมีควาสนุก เพลิดเพลิน โดยเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า เขาจะทำอะไรต่อไป จะมีนักฟุตบอลสักกี่คน ที่มีสุดยอดทักษะแบบนี้ สิ่งที่โรนัลดินโญ่ทำได้ ไม่ใช่เรียกว่าคอนโทรลบอลได้ดีเท่านั้น เพราะเรียกได้ว่า เมื่อลูกฟุตบอลอยู่กับเขานั้น ก็ราวกับว่ามัน เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเขาไปเลย

ทุกคำนิยามของคำว่า “ลีลาแซมบ้า” ถูกรวบรวมเอาไว้ อยู่ในตัวของ “โรนัลดินโญ่” ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นลีลาการเล่น และฝีเท้าอันจัดจ้าน ที่สามารถตัดสินเกมการแข่งขันได้ ในชั่วพริบตา พร้อมทั้งลีลาท่าดีใจ ที่เรียกได้ว่า แซมบ้า บราซิลขนานแท้ เขาก็แสดงมันออกมาได้อย่างครบถ้วน โดยเราจะพาท่านไปรู้จักกับ สุดยอดนักเตะชาวแซมบ้า ผู้มีรอยยิ้มบนหน้าตลอดเวลาที่เขาวาดลวดลายในสนาม คนนี้ให้มากขึ้นกว่าเดิมดีกว่า

เปิดประวัติ “โรนัลดินโญ่”

“โรนัลโด เดอ แอสซิส โมไรร่า” (Ronaldo de Assis Moreira) นี่คือชื่อแบบเต็มๆของ “โรนัลดินโญ่” ที่น้อยคนนักจะรู้จักชื่อนี้ โดย “โรนัลดิญโญ่” เกิดในวันที่ 21 มีนาคม ปี 1980 ที่เมือง Porto Alegre ตอนใต้ของประเทศบราซิล โดยหนุ่มน้อยคนนี้เกิดในสถานที่ และยุคสมัย ที่ไม่ค่อยดีมากนัก ด้วยสภาพสังคม ที่มีทั้งการคอร์รัปชัน, อาชญากรรม, และการแบ่งชนชั้น

แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนสิ่งที่เด็กๆชาวบราซิลมีเหมือนกันทั้งหมด นั่นก็คือ ความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ โดย “โรนัลดินโญ่” ก็เช่นเดียวกัน เพราะเขาเป็นเด็กที่เลนฟุตบอล ได้เก่งมาก ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 8 ขวบเท่านั้น โดยเขานั้นได้เรียนรู้ทักษะ ในการเล่นฟุตบอล มาจากพี่ชาจแท้ๆ ที่อายุห่างกันถึง 9 ปี ซึ่งพี่ชายของเขา ก็เป็นนักฟุตบอลที่คอยหาเงินเลี้ยงครอบครัว

“โรนัลดินโญ่” ที่มีพี่ชายของเขาเป็นต้นแบบ ได้ฉายแววความเป็นอัจฉริยะ จนไปเตะตาสโมสรเกรมิโอ้ ทีมในบ้านเกิด และถูกจับเซ็นสัญญา เป็นนักเตะเยวชนของทีม ไปทันที ซึ่งหลังจากนั้นอีก 6 ปี ชื่อของเขา ก็กลายเป็นที่โดด่งดังและถูกจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะการลงแข่งขันนัดหนึ่งกับทีมเขาสามารถพาทีมชนะคู่แข่งไปแบบขาดลอย 23-0 ซึ่งทั้ง 23 ประตูนั้น เป็นผลงานของเขาทั้งหมด

แน่นอนว่าด้วยฝีเท้าที่โดดเด่น เต็มเปี่ยมไปด้วยผลสวรรค์ ทำให้ในปี 1997 เขาถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติบราซิล ชุด U17 ซึ่งเขาก็ไม่ได้ทำให้ใครต้องผิดหวัง เพราะเขาสามารถพาทีมเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ได้ และแน่นอนว่าผู้เล่นที่โดดเด่น และถูกจับตามองมากที่สุดหลังจากจบทัวร์นาเมนต์นั้น ก็คือเขา “โรนัลดินโญ่” นั่นเอง

ด้วยผลงานดังกล่าว “โรนัลดินโญ่” ก็ได้ก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ ของสโมสร เกรมิโอ แบบเต็มตัว ในปี 1999 ซึ่งการเล่นของเขา กับทีมในบ้านเกิดนั้น ก็เป็นที่จับตามอง และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากบรรดาสโมสรใหญ่ๆ ในทวีปยุโรป ซึ่งแน่นอนว่า เกมิโอ้ ได้รับขอเสมอเข้ามามากมาย ในการขอซื้อตัวดาวรุ่งผู้เปี่ยมไปด้วย โคตะระพรสวรรค์รายนี้

ชีวิตบนแผ่นดินยุโรป และความยิ่งใหญ่ กับ “บาร์ซ่า”

ในปี 2001 “โรนัลดินโญ่” ย้ายเข้าสู่ทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง สโมสรยักษ์ใหญ่ ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในการเล่นอยู่ที่นั่น เขาไม่ได้โชว์ฟอร์มที่แท้จริง ออกมามากนัก โดยส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า การได้ก้าวเข้ามา ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่าง ปารีส นั้น ทำให้เขาหลงระเริงไปกับแสงสีและความบันเทิงที่เขาไม่เคยได้รับ เมื่อครั้งยังค้าแข้ง อยู่ในประเทศบ้านเกิด

แต่แล้วจุดพลิกฝันของชีวิต ก็เริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้นไม่นานนัก เพราะว่า “โรนัลดินโญ่” มีชื่อติดอยู่ใน 23 คน ของทีมชาติบราซิล ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก ปี 2002 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพร่วม ซึ่ง หลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี่ กุนซือจอมเก๋า ของทีมชาติบราซิลชุดนั้น มองเห็นถึงสิ่งที่อยู่ในตัวของเขา และไม่มีความลังเลเลยในการเรียกเขาติทีมไปด้วย

“โรนัลดินโญ่” ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยได้สร้างตำนาน 3R แห่งทีมชิติบราซิลขึ้นมา ร่วมกับ โรนัลโด้ และริวัลโด้ สองกองหน้ารุ่นพี่ จนสามารถพาทีมชาติบราซิล เข้าไปคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 5 มาครอบครองได้สำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่าด้วยฟอร์มที่โดดเด่น ในระดับเขย่าโลก ก็ทำให้มีข้อเสนอจากสโมสรใหญ่ๆ เข้ามามากมาย เพื่อขอซื้อเขาไปร่วมทีม

ในปี 2003 บาร์เซโลน่า เป็นทีมที่ได้ลายเซ็นของเขาไปครอง โดยทีมเจ้าบุญทุ่มใช้เงินไปกว่า 25 ล้านปอนด์ ในการซื้อตัวเขามาร่วมทีมและถึงแม้ว่าค่าตัวก้อนนี้ จะสูงจนทำลายสถิติสูงสุดของสโมสร ในช่วงเวลานั้น แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดๆ เพราะการเล่นของ “โรนัลดินโญ่” ในถิ่น คัมป์นู ทำให้ “บาร์ซ่า” เป็นแชมป์ลาลีกา 2 สมัย และแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก อีก 1 สมัย

ด้วยผลงานที่สุดยอดแบบนี้ ก็แน่นอนว่า รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลก หรือ “บัลลงดอร์” ก็ตกเป็นของเขา อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ชีวิตการค้าแข้งของเขา ก็ไม่ได้สวยงามอีกต่อไป เมื่อไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของเขา กลับมาทำลายอาชีพของเขาเอง เพราะด้วยความเป็นคนที่ชอบปาร์ตี้ ไม่ดูแลตัวเองให้ดี จึงทำให้ฟอร์มของเขา ตกลงไปอย่างน่าใจหาย จนทำให้เขาต้องย้ายออกจากทีม ในปี 2008

บั้นปลายอาชีพของ “อัจฉริยะลูกหนัง”

“ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน คือสเต็ปต่อมา ของยอดแข้งคนนี้ โดย “โรนัลดินโญ่” อยู่ในถื่น ซานซิโร่ เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งฟอร์มการเล่นของเขานั้น ก็อยู่ในระดับที่ดีพอใช้ได้ แต่ก็ห่างไกลจากมาตรฐานเดิม ที่เคยทำได้อยู่มากโข อีกทั้งด้วยอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้สภาพร่างการที่ไม่ได้ดีอยู่แล้วแย่ลงไปอีก แต่เขาก็ยังสามารถคว้าแชมป์ กัลโช่ ซีเรียอา ได้ ในปี 2011 ก่อนที่จะย้ายกลับบ้านเกิด

โรนัลดิลโญ่ ตอบรับข้อเสนอ ที่จะกลับมาค้าแข้งในบ้านเกิด โดยสโมสรที่ได้ลายเซ็นของเขาไป ก็คือฟลูมิเนนเซ่ สโมสรใหญ่ของบราซิล ซึ่งสโมสรแห่งนี้ ก็กลายเป็นปลายทางแห่งสุดท้ายของ “โรนัลดินโญ่” ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เขาได้ตัดสินใจ แขวนสตั๊ด ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ และยุติชีวิตการข้าแข้งของเขาลงไป ในปี 2018 ด้วยวัย 37 ปี

เกียรติประวัติที่โดดเด่น ในนามสโมสร และทีมชาติ

ระดับสโมสร

• แชมป์ ลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2004-05 และ 2005-06
• แชมป์ ซูเปอร์โกปา เดเอสปันญ่า ปี 2005
• แชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ปี 2006

ระดับทีมชาติ

• แชมป์ ฟุตบอลโลก อายุต่ำกว่า 17 ปี ในปี 1997
• แชมป์ โคปาอเมริกา ปี 1999 และ 2004
• แชมป์ คอนเฟดเดอเรชันส์คัพ ปี 2005

บั้นปลายอาชีพของเขาไม่ได้สวยงาม และชีวิตนอกสนาม ก็ไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี แต่เราก็เชื่อเหลือเกินว่า ภาพจำของทุกคน ที่รู้จักกับสุดยอดนักเตะ ศิลปินลูกหนังคนนี้ คงจะเป็นาพของลีลาการเล่นที่สุดยอด ทักษะที่หาตัวจับยาก ลูกยิงสุดสวยงาม รวมไปถึงรอยยิ้มที่ไม่เคยจางหาย ในเวลาที่เขากังลังวาดลวดลาย บนพื้นสนามหญ้า นี่คืออีกหนึ่งบท กับตำนานสุดยอดนักเตะ “โรนัลดินโญ่”

อ่านข่าวฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ :: Cheerball345/football-history

อัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับฟุตบอล และรับทีเด็ดฟรีก่อนใครได้แล้ววันนี้ที่ :: Cheerball345.com